ในวันฟ้าโปร่งอากาศแจ่มใส มีหอยกาบตัวหนึ่งนอนผึ่งแดดอยู่ที่ชายหาดทรายชายทะเล มันเปิดเปลือกหอยทั้ง 2 ข้างออกรับแดดอันอบอุ่นอย่างสุขสบาย ในขณะนั้นเองมีนกปากซ่อมตัวหนึ่งเดินหาอาหารอยู่ในบริเวณไกล้เคียง มองเห็นเนื้อสีแดงของหอยกาบตัวนั้นสะท้อนแสงเป็นประกายวับๆ นกปากซ่อมดีใจมาก รีบตรงแน่วเข้าไป ใช้ปากจิกหมายจะกินเนื้อหอย หอยกาบเจ็บปวดแสนสาหัส รีบหุบเปลือกหอยทั้ง2ข้างเข้าหากันอย่างรวดเร็ว หนีบเอาจะงอยปากของนกปากซ่อมติดอยู่ในเปลือกหอยด้วย
นกปากซ่อมพยายามดึงจะงอยปากของตนออกสุดแรงเกิดแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะหอยกาบหนีบไว้อย่างสนิทแน่น นกปากซ่อมเริ่มรู้สึกสำเนียกเสียใจบ้างแล้วแต่ก็แสดงท่าทีทำเป็นไม่แยแสพูดกับหอยกาบว่า
"แกช่างเป็นสัตว์ที่โง่จริงๆ แกมาหนีบจะงอยปากของฉันไม่ยอมปล่อยอย่างนี้ตัวแกเองก็เคลื่อนที่ไม่ได้ ถ้าวันนี้ฝนไม่ตก พรุ่งนี้ฝนก็ไม่ตก ตัวแกก็จะต้องแห้งตายแน่ๆ ฉันคิดว่าทางที่ดีแกยังคงรีบคลายแล้วกลับลงน้ำไปจะดีกว่า"
หอยกาบยิ้มอย่างเย็นชา ตอบกลับมาว่า
"แกไม่ต้องมาทำพูดดี ฉันไม่หลงกลแกแน่นอน ปากของแกถูกฉันหนีบอยู่อย่างนี้ วันนี้ก็กินอะไรไม่ได้ พรุ่งนี้ก็กินอะไรไม่ได้ แกก็จะต้องอดตายในไม่ช้า"
"แกไม่ต้องมาทำพูดดี ฉันไม่หลงกลแกแน่นอน ปากของแกถูกฉันหนีบอยู่อย่างนี้ วันนี้ก็กินอะไรไม่ได้ พรุ่งนี้ก็กินอะไรไม่ได้ แกก็จะต้องอดตายในไม่ช้า"
สัตว์สองตัวนี้ เถียงกันไปมาอยู่ครึ่งค่อนวัน ไม่มีใครยอมใคร พอดีมีชายชาวประมงคนหนึ่งกำลัง จะกลับบ้านเดินผ่านมา เห็นสัตว์2 ตัวหนีบติดอยู่ด้วยกัน เขาพูดขึ้นอย่างดีใจว่า
"โชคของฉันวันนี้ไม่เลวทีเดียว เมื่อทั้งคู่ตกลงกันไม่ได้ฉันก็ต้องคว้าโอกาสอันนี้ไว้แล้ว"
และแล้วชายชาวประมงก็จับเอาสัตว์ทั้ง 2 ตัวนั้นขึ้นมาใส่ลงในชะลอมไม้ไผ่ด้วยกัน วางแผนการไว้ว่าพรุ่งนี้จะเอาไปขายในตลาด
ท่านสาธุชนทั้งหลาย.....
น ตํ ชิตํ สาธุ ชิตํ ยํ ชิตํ อวชิยฺยติ
--------------------------------
น ตํ ชิตํ สาธุ ชิตํ ยํ ชิตํ อวชิยฺยติ
--------------------------------
เราอย่าเป็นคนถือทิฏฐิมานะ ดื้อดึงจะเอาชนะให้ได้ คนอย่างนั้นเป็นคนไม่น่ารัก ไม่มีใครอยากคบด้วย และจะทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ แล้วตัวเองต้องมานั่งเสียใจภายหลัง ขอให้เราเป็นคนรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว รู้จักประนีประนอม มีหลักการชัดเจน เมื่อใดที่รู้ว่าตัวเองทำพลาดไปแล้ว ก็มีความกล้าหาญพอทีจะยอมรับผิดและปรับปรุงแก้ไข ไม่ดันทุรังเถียงข้างๆ คูๆ ไม่กลัวหน้าแตก คนที่รู้จักแพ้รู้จักถอยอย่างนี้ แทนที่จะเป็นการบั่นทอนศักศรีของตัว ตรงกันข้ามกลับจะเป็นที่รักที่เคารพเกรงใจของคนอื่นๆ
ความชนะใดที่ชนะแล้วกลับแพ้ได้
ความชนะนั้นไม่ดี
(ขุ. ชา. เอก. 27/22)
ลองหันกลับมาดูพวกเรากันเองสิว่า....
เรามีการไม่ลดราวาศอกกับใครอยู่หรือไม่..?
เพราะผลสุดท้ายผู้อื่นก็อาศัยความแตกแยกของเราเป็นเครื่องมือ
ตักตวงผลประโยชน์จากเรา
Cr. พระมหาสมชาย ฐานะวุฑฺโฒ M.D., Ph.D
วัดพระธรรมกาย
ลองหันกลับมาดูพวกเรากันเองสิว่า....
เรามีการไม่ลดราวาศอกกับใครอยู่หรือไม่..?
เพราะผลสุดท้ายผู้อื่นก็อาศัยความแตกแยกของเราเป็นเครื่องมือ
ตักตวงผลประโยชน์จากเรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น